2552-08-18

เครื่องชงกาแฟ


เครื่องชงกาแฟ

เครื่องชงกาแฟที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ แบ่งเป็น 3ประเภทด้วยกัน

1.เครื่องชงกาแฟแบบกรอง (Drip )
แหล่งกำเนิดมาจากฝรั่งเศสตัวเครื่องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนบน และส่วนล่าง ขั้นตอนการชงจะเทน้ำร้อนใส่กรวยด้านบนที่มีกาแฟบดบรรจุอยูให้น้ำร้อนไหลผ่านและค่อยๆหยดลงมาที่โถรองด้านล่าง รสชาติกาแฟที่ได้จะกลมกล่อมเข้มปานกลาง แต่จะมีผงของกาแฟปนลงมาด้วย โดยปกติเครื่องแบบนี้จะใช้ชงกาแฟเอสเพรสโซ
2.เครื่องชงกาแฟแบบสุญญากาศ
ผลิตโดยวิศวกร ชาวสกอต เครื่องชงแบบนี้จะประกอบไปด้วย กระเปาะแก้ว 2 ใบ ตัวกรอง ท่อส่งน้ำ ตะเกียงแบบไซฟ่อน หลายคนบอกว่าเครื่องชงแบบนี้ทำให้ได้รสชาติที่ดีกว่าเครื่องชงแบบอื่นๆแต่เครื่องชงแบบนี้ ก็ไม่ค่อยได้รับความนิยม
3.เครื่องชงกาแฟแบบแรงดันไอน้ำ ( Espresso Machine)
ประดิษฐ์ขึ้นราวปี ค.ศ.1822 โดยMr.Louis Bernard Rabaut ลักษณะเด่นของเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ คือการใช้แรงดันน้ำร้อนออกมาตามวาล์วและผ่านกาแฟบดในบล็อกกรองแล้วออกมาเป็นน้ำกาแฟที่เข้มข้น จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที เป็นเครื่องที่ได้รับความนิยมใช้เป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้
เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ที่ใช้ในปัจจุบันยังแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ
1.แบบที่ใช้ในบ้าน
เป็นเครื่องชงกาแฟขนาดเล็กที่ใช้ในบ้าน เหมาะสำหรับการชงไม่กี่แก้ว หรือชงกินเองภายในครอบครัว ราคาไม่แพงเริ่มที่หมื่นบาท ขนาดเล็กกระทันรัด ถอดทำความสะอาดได้สะดวก แต่ข้อด้อยคือคุณภาพของรสชาติกาแฟที่ได้ไม่ได้มาตรฐานเท่ากับเครื่องแบบอื่นๆและต้องใช้เวลาในการชงต่อแก้วที่ยาวนานกว่าเพราะมีหม้อต้มขนาดเล็ก และการสตีมนมช้า ทำให้ต้องเติมน้ำบ่อยๆ และมีหัวกรุ๊ปเพียงอันเดียว ถ้าต้องชงหลายๆแก้วอาจต้องใช้เวลา
2.เครื่องชงกาแฟแบบ Traditional
อาจจะมีชื่อเรียกได้หลายแบบ เช่น เครื่องชงกาแฟแบบ Comercial เครื่องชงกาแฟแบบ Semi-Automatic เครื่องชงกาแฟแบบ Automatic เครื่องชงกาแฟแบบนี้นิยมมากในร้านกาแฟ ชงกาแฟแล้วทำให้ได้รสชาติที่ดี สตีมนม สำหรับคาปูชิโนและลาเต้ได้ดีที่สุดเครื่องชงกาแฟแบบ Traditional มีให้เลือกตั้งแต่ 1-4 หัวกรุ๊ป เครื่องทำงานแบบ ออโตเมติก เพียงกดปุ่มเท่านั้นสะดวกและปลอดภัยต่อการใช้งาน มีระบบตัดความร้อนอัตโมัติ ข้อดีของเครื่องแบบนี้คือ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ชงกาแฟได้รสชาติดี สะดวก ปลอดภัย ใช้งานง่าย แต่ราคาก็อยู่ระหว่าง 100,000 -300,000 บาท ยกตัวอย่างเครื่องชงกาแฟแบบ Traditional ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันได้แก่ยี่ห้อ Conti ผลิตจากประเทศโมนาโก เป็นเครื่องชงกาแฟคุณภาพสูงที่นิยมใช้กันอย่างมาก ในร้านกาแฟระดับพรีเมี่ยม ยกตัวอย่าง 3 รุ่น

2.1 รุ่นคอนติคลับ (Conti Club) เป็นเครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก มี 1-2 หัวกรุ๊ป ประกอบด้วย ท่อน้ำร้อน 1 ทางและท่อสตีม 1 ทาง จุดเด่นคือมีหม้อต้มขนาดใหญ่ โดยรุ่น 1 หัวกรุ๊ป หม้อต้มขนาด 8 ลิตร รุ่น 2 หัวกรุ๊ป หม้อต้มขนาด 12 ลิตร การที่เครื่องมีหม้อต้มขนาดใหญ่ทำให้ช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำให้คงที่และ มีไอน้ำทำสตีมนมได้อย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ Conti Club ยังมีระบบเติมน้ำอัตโนมัติใช้ระบบไดเร็กอินเจ็คชั่นของมอเตอร์ปั๊มน้ำ ควบคุมด้วยระบบอิเล็คทรอนิกปลอดภัย ตั้งปริมาณน้ำได้ 4 โปรแกรม และยังมีระบบการพรมน้ำบนกาแฟในก้านอัดกาแฟ ทำให้ได้รสชาติกาแฟและกลิ่นกาแฟที่ดี ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสสวยงามคงทน ทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก
2.2 รุ่นซีออส (Xeos) มีตั้งแต่ 2-4 หัวกรุ๊ป หม้อต้มน้ำมีขนาดใหญ่ 14 ,21และ 25 ลิตร จะประกอบไปด้วยท่อน้ำร้อน 1 ท่อ และ 2 ท่อสตีมในเครื่องขนาด 4 หัวกรุ๊ป ท่อสตีมมีหูจับที่กันความร้อนได้ ก้านเปิด-เปิดสตีมเป็นแบบโยก ทำให้ควบคุมสตีมได้คงที่และรวดเร็วมีหลายโปรแกรมควบคุม ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย แผงวงจรอิเล็คทรอนิกเก็บอยู่บริเวณที่มีความร้อนต่ำ ทำให้ยืดอายุการใช้งาน มีระบบตัดและเตือนเมื่อความร้อนในหม้อน้ำสูงและปริมารน้ำน้อยเกินไป ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสสตีลอย่างดี ทนทานและสวยงาม
2.3 รุ่นทวินสตาร์ทู ( Twinstar II) ถือเป็นสุดยอดของระบบเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ ที่แตกต่างจากเครื่องอื่นๆ ด้วยระบบมัลติบอยเลอร์ มีหลายหม้อต้ม หม้อต้มมีความจุถึง 20 ลิตร มีให้เลือก 2 หัวกรุ๊ปขึ้นไป ควบคุมอุณหภูมิน้ำอย่างเที่ยงตรง ด้วยระบบสัมผัส ดิจิตอล หน้าจอ LCD ของแต่ละหัวกรุ๊ป แม่นยำสูงทำให้ได้รสชาติกาแฟที่ดี เหมาะกับกาแฟหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่มากสามารถวางเหยือกได้ ทำงานสะดวกสามารถนับจำนวนแก้วที่ลงได้ด้วย มีระบบปิด-เปิด เครื่องอัตโนมัติ มีโปรแกรมเตือนการบำรุงรักษา
3.เครื่องกาแฟแบบ Fully Automatic หรือ Super Automatic
ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กับโรงแรมหรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ความสะดวกรวดเร็วในการชง เพราะว่าเครื่องชงแบบนี้ มีทั้งเครื่องบดและเครื่องชงกาแฟอยู่ในตัวเดียวกัน และทำงานด้วยระบบออโตเมติกจึงทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่เรื่องรสชาติของกาแฟเทียบไม่ได้กับ เครื่องชงกาแฟแบบ Traditional นิยมใช้มากในต่างประเทศ แต่ราคาสูงถึง 300,000 บาทขึ้นไปบางรุ่นอาจเป็นล้านบาท