2552-11-26

กาแฟหอมละมุน


แฟรนไชส์ร้านกาแฟน้องใหม่ที่มีพื้นฐานมาจากการเป็นซัพลายเอ่อร์ เมล็ดกาแฟให้กับลูกค้าที่ต้องการเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง และได้รับการยอมรับจากลูกค้าจากร้านต้นแบบ ชื่อโคโคโร่
ทำให้มีลูกค้าเข้ามาปรึกษาถึงการทำธุรกิจกาแฟอยู่อย่างไม่ขาดสาย จึงได้เซ็ตระบบแฟรนไชส์ร้านกาแฟหอมละมุน ขึ้นมาเพื่อตอบสนอง ความต้องการของลูกค้า โดยร้านกาแฟหอมละมุนถูกเว็ตขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปของการเป้นร้านกาแฟที่มีคุณภาพดี ราคาเบาๆและการบริการที่ดี ไม่ด้อยไปกว่าแฟรนไชส์อื่นๆ แต่ความแตกต่างคือความยืดหยุ่น โดยสามารถตัดต้นทุนที่ไม่จำเป็นออกไปได้ เช่น แก้ว หลอด ชุดยูนิฟอร์ม แต่การลงทุนลูกค้าจะได้อุปกรณ์ต่างๆครบครับ สามารถเริ่มธุรกิจได้ทันที

รูปแบบการลงทุนเเฟรนไชส์
ร้านกาแฟ หอมละมุน อยู่ที่ราคา 38,000บาท ได้รับเคาน์เตอร์ 1.20 เมดร พร้อมเครื่องบด เครื่องชง และอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถเปิดร้านกาแฟได้ทันที โดยจะได้รับการอบรมในทุกๆ ขั้นตอนก่อนขายจริง
ซึ่งเหมาะสำาหรับลูกค้าที่มีพื้นที่หน้าบ้านหรือ มีธุรกิจเดิม และมีเนื้อที่ว่างเพิมสามารถช่องทางการขายสินค้าอื่นๆ หรือ ผู้ที่มีทำเลย่านแหล่งชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน
ด้วยรูปลักษณ์ของเคาน์เตอร์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญๆ 2 ปัจจัย คือ สีสันสวยงามของเค้าน์เตอร์จะช่วยดึงดูดผู้ซื้อและการออกแบบที่เคลื่อนย้ายสะดวก ง่ายในการติดตั้ง จึงช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับลูกค้าที่เน้นทำตลาดแบบไม่ยึดติดพื้นที่เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถ
จำหน่ายตามงานแสดงสินค้าต่างๆ หรือตามตลาดนัด ในแต่ละพื้นที่ไดอีกด้วยในเบื้องต้นเป้าหมายการขยายสาขาแฟรนไชล์อยู่ที่ 10-20สาขา (เฉพาะในเขตกรุงเทพขและปริมณฑล) ก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่นๆโดยเปิดรับดีลเลอร์ดูแลสาขาประจำจังหวัดจังหวัดละ 1 สาขา ส่วนเรื่องรลชาตินั้นมั่นใจว่ากาแฟหอมละมุน จะถูกใจผู้บริโภคสมกับชื่อ หอมละมุนเนื่องจากได้ลงทุนทำการวิจัยจนพบว่ารสชาติที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ชอบคือรสชาติแบบใด โดยบรรจุอยู่ในหลักสูตรอบรมให้กับลูกค้าด้วย นอกจากเมนูกาแฟ ร้อน เย็น แล้ว ยังมีเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ไว้รองรับเพิ่มเติม เช่น ชา โกโกั และน้ำผลไม้เป็นต้น
อย่างไรก็ดีจากคุณสมบัติของผู้ที่สนใจจะร่วมลงทุนกับแฟรนไชส์หอมละมุนในเบื้องด้นนั้นหากเป็นไปได้ขอเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีทำเลของตัวเองแน่นอน เพื่อตัดเรื่องค่าเช่าพื้นที่และมีใจรักบวกกับความตั้งใจในการทำธุรกิจกาแฟจริงๆ ส่วนในรายละเอียดอื่นๆ นั้นสามารถเขามาพูดคุยปรึกษากับทาง

สนใจขอรับรายเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท โคโคโร่เบฟเวอร์เรจ จำกัด 78/2 ซ.ถ.พหลโยธิน แขวงจระเข้บัว กรุงเทพฯ โทร. 02-907-17720 หรือ www.kokoro.co.th

2552-11-09

กาแฟ 94 องศา (94 oC Coffee) หรือ ไนน์ตี้โฟร์ คอฟฟี่



กาแฟ 94 องศา (94 oC Coffee) หรือ ไนน์ตี้โฟร์ คอฟฟี่
ในยุคสมัยที่กาแฟมีการแข่งขันการอย่างดุเดือดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟพรีเมี่ยม แบรนด์ของ กาแฟ 94 องศาซี (94 oC Coffee) นับว่าเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพของสินค้าและวิธีในการบริหารงานทั้งด้านการจัดการและการตลาด ในระดับที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าร้านกาแฟพรีเมี่ยมแบรนด์ดังระดับโลก
ปัจจัยที่ทำให้ร้านประสบความสำเร็จนั้น คุณกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหารบริษัทอัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด ได้กล่าวว่ามีหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. เริ่มจากชื่อร้าน 94 oC Coffee มาจากระดับอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ชงกาแฟที่ซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุด
2. บรรยากาศภายในร้าน การตบแต่ง โดยทางบริษัทมีฝ่ายออกแบบโดยเฉพาะ ซึ่งก่อนออกแบบก็ได้ทำแบบสอบถามสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย ทั้งร้านกาแฟแบบ stand alone หรือตั้งอยู่ภายในอาคาร เช่น ใช้สีน้ำตาลแดงเป็นสีหลักในการแต่งร้าน เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกอยากดื่มกาแฟ ร้านกาแฟแบบพรีเมี่ยมก็ต้องทำให้เป็นแบบพรีเมี่ยมจริงๆ จำนวนโต๊ะ ต้องไม่มาก ห่างกันพอสมควร มีโต๊ะหลากหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกนั่ง จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ เป็นต้น
3. รสชาติกาแฟ และเมนูต่างๆ ตลอดจนเครื่องชงกาแฟรุ่นที่ดีที่สุดจากอิตาลี ดังสโลแกนที่ตั้งไว้ว่า “กาแฟดี เค้กอร่อย” เมล็ดกาแฟที่ใช้เป็นชั้นเยี่ยม ซึ่งนับว่าเป็นจุดแข็งของร้าน เพราะ อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ เป็นหนึ่งกิจการในเครืออโรม่า กรุ๊ป และเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์กาแฟคั่วบดอโรม่า
4. ด้านการให้บริการ ยังใช้แบบกึ่ง self service คือ ยังให้พนักงานบริการให้อยู่ เพราะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทยจะยังต้องการการบริการอยู่มาก นอกจากนั้นยังมีการให้บริการเสริม เช่น อินเตอร์เน็ต wi-fi

งบประมาณในการสร้างร้านกาแฟแบบ 94 oC Coffee
94 oC Coffee แบ่งแฟรนไชส์ออกเป็น 4 แบบ คือ
1. shop แบบ stand Alone ประมาณ 2,730,000 บาท
2.shop แบบ Housing ประมาณ 1,930,000 บาท
3. Corner ขนาดใหญ่ พื้นที่ 40 ตารางเมตร ประมาณ 1,370,000 บาท
4. Corner ขนาดเล็ก พื้นที่ 25 ตารางเมตร ประมาณ 1,050,000 บาท
และผู้ลงทุน ควรจะต้องเตรียมเงินทุนสำรองไว้ในสัดส่วนประมาณ 15-20 % ของเงินลงทุนไว้เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนภายในร้านในระยะเวลา 2-3 เดือนเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักร้านซะก่อน และในกรณีที่ต้องเช่าพื้นที่ ค่าเช่าสูงสุดไม่ควรเกิน 18 % จากยอดขาย ไม่เช่นนั้นจะมีโอกาสขาดทุนสูง ค่าใช้จ่ายพนักงานควรคุมให้อยู่ระหว่าง 10-15 % ของยอดขาย สาธารณูปโภคสูงสุดไม่เกิน 8 % ของยอดขาย สุดท้ายต้นทุนอาหารและเครื่องดื่มสูงสุดต้องควบคุมไม่ให้เกิน 40 % ของยอดขาย
ส่วนเรื่องรายได้นั้น เมนูกาแฟราคาต่ำสุด 50 บาท สูงสุดไม่เกิน 80 บาท อาหารว่าง อยู่ระหว่าง 55-80 บาท
ด้านผลกำไรสุทธิ จะอยู่ประมาณ 15-30 % และถ้าเป็นร้านกาแฟอิสระ ไม่ต้องเสียค่าลอยัลตี้กับค่าการตลาด 6 % แล้ว กำไรย่อมเพิ่มขึ้นไปอีก
ผู้ที่สนใจอยากจะเปิดร้านกาแฟพรีเมี่ยมแบบเร่งด่วนสามารถลงทุนแฟรนส์ไชส์กับ กาแฟ 94 องศาซี (94 oC Coffee)
ข้อมูลเบื้องต้น
-เสียค่าแฟรนส์ไชส์แรกเข้า 400,000 บาท
-ได้รับการช่วยเหลือในการออกแบบร้าน ซึ่งสามารถปรับความต้องการทั้งผู้ลงทุนและเจ้าของแฟรนส์ไชส์ให้สอดคล้องกัน
-การฝึกอบรมจากทางบริษัท รวมทั้งจัดหาบุคลากรให้ถ้าต้องการ และฝึกอบรมให้พร้อมปฏิบัติงานได้
-มีระบบพนักงานเสริมได้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ขาดแคลนบุคลากร
-บริษัทจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ศักยภาพของทำเลที่ตั้งเพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุดของผู้ลงทุน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด 139/13 ซอยโชคชัย 4 ถ.ลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 โทร 0-2933-4191-5 โทรสาร 0-2933-4191-5 ต่อ 444

หมายเหตุ ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

2552-11-07

คาเฟ่ เดอ ไอยรา กาแฟแบรนด์ไทย


คาเฟ่ เดอ ไอยรา กาแฟแบรนด์ไทย
คาเฟ่ เดอ ไอยรา เป็นอีกแบรนด์ของไทยที่ ประสบผลสำเร็จไปไกลถึงต่างแดน เตรียมบุก พม่า มาเลเซีย จีน จากการก่อตั้งเพียง 2 ปีกว่าเท่านั้น โดยคุณนิธิศ มหาวรรณ
กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามคอฟฟี่ อินเตอร์เนชั่นแนล บอกที่มาของแบรนด์ว่า มาจากร้านกาแฟในฝรั่งเศส ชื่อว่า คาเฟ่ เดอ ลาฟองส์ ซึ่งร้านในฝันของเขา
คุณนิธิศ ได้ศึกษาข้อมูลการลงทุนด้านกาแฟช่วงแรกพบว่า การลงทุนในระดับไม่เกิน 30,000 บาทเป็นฐานที่กว้างมาก จึงคิดสร้างโมเดล ทางลงทุนเป็นแฟรนไชส์แบบ คีออสขนาดเล้ก ลงทุน ในระดับ 19,000 บาท
และ 29,000 บาท และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ลงทุนจนสามารถขยายสาขาได้ถึง 250-300 สาขา
เนื่องจากการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ต้องทบทวนเรื่องการบริหารจัดการ จึงได้พัฒนารูปแบบการลงทุนที่สูงขึ้น จนปัจจุบันได้หยุดการลงทุนแบบคีออสและหันมา ทำแบบคอฟฟี่ช็อปแทน เพราะผลตอบรับที่ดีกว่า
จึงได้ปรับรูปแบบการลงทุนเป็นช็อปขนาดพื้นที่ 10 ตารางเมตรไปจนถึง 100 ตารางเมตร จุดขายสำคัญของคาเฟ่ เดอ ไอยรา คือการคัดคุณภาพเมล็ดกาแฟ และเทคนิคการคั่วจากผู้เชี่ยวชาญ และราคาขายที่สมเหตุสมผลคือไม่แพง ตกแก้วละ 40-60 บาท สามารถแข่งขันได้
ในตลาดได้ทุกระดับ จนปัจจุบันนี้เตรียมโกอินเตอร์ด้วยการนำกาแฟไทย บุกตลาดอาเซียน และ 3 ประเทศ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆอีกต่อไป
นี่เป็นสิ่งการันตีถึงความพร้อมของกาแฟ คาเฟ่ เดอ ไอยรา ที่จะก้าวต่อไปเพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้บริโภคมั่นใจ

สนใจรายละเอียดแฟรนไชส์ คาเฟ่ เดอ ไอยรา ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามคอฟฟี่ อินเตอเนชั่นแนล
23/380 ม.13 ถ.นวมินทร์ 68 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10240
โทร.02-944-8599(2คู่สาย),แฟกซ์: 02-944-8579
Email: iyaracoffee@hotmail.com,vdsing@hotmail.com