2553-09-16

รูปแบบร้านกาแฟ

ร้านกาแฟ

คุณต้องกำหนดว่า ร้านกาแฟที่อยากเปิดจะเป็นแบบใด ในใจของคุณจะต้องมีแผนผังร้านกาแฟเป็นของตัวเองอย่าง แน่นอน ถ้ายังไม่มีแผนผังที่ชัดเจน มีแค่ความคิดเลือนราง ไม่สมบูรณ์ หรือยังอยู่แค่ในช่วงการสร้างความฝันแต่ยังไม่กล้าพูดออกมาก็ไม่เป็นไร ยิ่งใช้เวลาวางแผนนานก็จะยิ่งมีแผนผัง ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

จากรูปแบบร้านกาแฟของไต้หวันในปัจจุบัน สามารถแบ่งประเภทของร้านกาแฟแบบกว้างๆ ได้ดังนี้

1.ร้านกาแฟแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะ
สิ่งที่ร้านกาแฟแบบนี้ขายคือ “กาแฟ” และ “พื้นที่บทบาทของมันคือการเป็นผู้จำหน่ายพื้นที่ จัดพื้นที่ให้ให้ลูกค้า พักผ่อน ครุ่นคิด หาเพื่อนไปพร้อมกับการเพลิดเพลินกับกาแฟรสชาติ ดี สินค้าหลักของร้านกาแฟแบบนี้ก็คือกาแฟ โดยส่วนมากแล้วเจ้าของร้านจะชอบกาแฟ ให้ความสำคัญกับเทคนิคการ ชงกาแฟ รสชาติกาแฟ เห็นว่าการชงกาแฟหนึ่งถ้วยเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ทำให้ร้านแห่งนี้มีรูปแบบเเละจุดเด่นเป็นของตัวเอง ซึ่งจะมีผู้สนับสนุนและแขกประจำอยู่กลุ่มหนึ่ง

ร้านเหล่านั้นจะขายเฉพาะกานเฟ ไม่ขายอาหาร อย่างมากก็มีแค่อาหารว่างจำพวกบิสกิตที่ทำเองและเค้กนานาชนิดแซนด์วิช สลัด เป็นต้น บางร้านอาจจะขายเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์เกี่ยวกับกาแฟด้วย
จากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน การทีร้านกาแฟลักษณะนี้จะอยู่ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงต้องสร้างร้านกาแฟให้โดดเด่น ละเอียดอ่อนและแตกต่าง จงจะสามารถอยุ่รอดได้ในตลาด ในระยะยาวได้

2.ร้านที่ขายกาแฟโดยเฉพาะ
เมื่อเดินเข้าไปในร้านประภทนี้ เพียงแค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นสถานที่ที่ขายกาแฟ นอกจากจะสามารถดื่มกาแฟให้แล้ว ยังสามารถหาซื้อเครื่องชงกาแฟ เมล็ดกาแฟ ของใช้เกี่ยวกับ กาแฟ รวมถึงภาชนะต่างๆ ได้อีกด้วย อาจกล่าวได้ว่าเป็นร้าน ที่ขายเฉพาะกาแฟจริงๆ ร้านเหล่านี้ล้วนเป็นร้านแบบตั้งเดิมทีขายกาแฟโดยเฉพาะ กาแฟที่ขายเป็นกาแฟที่ใช้วิธีชงมือแบบ ดั้งเดิม

กลุ่มเป้าหมายก็เป็นกลุ่มคนที่มีอายุมากแล้วร้านเหล่านั้นมีจุดเด่นอยู่อย่างหนึ่งคือ นอกจากจะขายอุปกรณ์เกี่ยวกับกาแฟและการชงกาแฟแล้ว กิจการสำคัญอีกอย่างหนึ่งของพวกเขาก็คือการคั่วกาแฟ เนื่องจากต้องคั่วเมล็ดกาแฟด้วยตัวเองเพื่อขายให้กับลูกค้าและร้านกาแฟ ต่างๆ ดังนั้นในร้านจึงเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของการคั่วเมล็ดกาแฟอยู่ตลอดเวลา

3.ร้านกาแฟแบบสวนดอกไม้
ร้านกาแฟแบบสวนดอกไม้ต้องมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างจึงจะสร้างทิวทัศน์สีเขียวขจีได้ ร้านกาแฟ
แบบสวนดอกไม้หลายแห่งจึงจาหน่ายอาหารด้วยเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ผู้บริโภคอยู่ในสวนดอกไม้เพลิดเพลินกับอาหารรสอร่อยไปพร้อมกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ดังนั้นอาหารที่โดดเด่นและสวนดอกไม้ที่มีเอกลักษณีจึงเป็น จุดขายสำคัญในการดึงดูดลูกค้า นอกจากนี้ทีวทัศน์สวนดอกไม้ของร้านกาแฟประเภทนี้ก็ เป็นจุดเด่นอีกอยางหนึ่งด้วย สวนดอกไม้หรือการสร้างสวนไว้หน้าร้านกาแฟนั้น ก่อนสร้าง
สวนจะต้องคีดให้ดีเสียก่อนว่า ตัวเจ้าของร้านจะดูแลได้หรือเปล่า หรือจะหาคนมาดูแลรักษาสวนในระยะยาวได้หรือไม่เพราะการปลูกดอกไม้หรือต้นไม้นั้นไม่ใช่เรี่องง่ายเลยที่จะดูแลให้ดี ถ้าดูแลไม่ดี สวนดอกไม้ก็อาจจะรกร้างได้ตั้งแต่ครึ่งปีแรกหรือสามเดือน ดอกไม้ต้นไม้เหี่ยวเฉา วัชพืชขึ้น ไม่เพียงแต่จะดึงดูดลูกค้าไม่ได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ลูกค้ากลัวจนไม่กล้าเข้าร้านและกลายเป็นข้อเสียอีกด้วย

4.ร้านกาแฟแบบหอพัก
ร้านกาแฟแบบหอพักขายกาแฟและให้บริการที่พักด้วยจึงกลายเป็นกระแสนิยม ในแต่ละพื้นที่ของไต้หวันมีร้านกาแฟแบบหอพักมากมายนับไม่ถ้วน ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างร้านกาแฟแบบหอพักกับหอพักทั่วๆ ไปก็คือ ร้านกาแฟแบบหอพักจะขายรสชาติกาแฟเป็นหลัก และเปิดที่ว่างในร้านกาแฟให้แขกพัก ส่วนหอพักทั่วๆ ไปจะขายห้องพักและอาหารเป็นหลัก และจำหน่าย กาแฟกับเครื่องดื่มรองลงมา

5.ร้านกาแฟแบบผสมพสาน
การเปิดร้านแห่งหนึ่งสามารถทำการค้าได้เพียงอย่างเดียวหรือ? ถ้านำกิจการสองชนิดที่แตกต่างกันมารวมไว้ในร้านเดียวกันก็จะสามารถสนองความต้องการทั้งสองอย่างของลูกค้าไปได้พร้อมๆ กัน นี่ก็คือแนวคิดของการทำกิจการร้านกาแฟ แบบผสมผสาน จากแนวคิดนี้จึงมีการนากาแฟไปรวมกับกิจการอื่นๆ คือนอกจากจะขายกาแฟแล้วก็ยังตอบสนองความต้องการด้านอื่นๆ ของลูกค้าด้วย ถึงร้านกาแฟแบบนี้กำลังอยู่ในช่วงบุกเบิก
รูปแบบของร้านกาแฟแบบผสมผสานที่มักจะพบโดยทั่วไปจะเป็นร้านกาแฟกินดื่มที่ขายอาหาร กาแฟและเครื่องดื่มเป็นหลัก และยังอาจแบ่งเป็นอาหารจีน อาหารตะวันตกอาหารยุโรป อาหารณี่ปุ่น อาหารฝรั่งเศส เป็นต้น มีแบบที่รวมร้านกาแฟกับขนมเค้กและขนมปัง หรือรวมกับร้านขายดอกใม้ ร้านหนังสือ ร้านขาย CD เพลง ร้านขายของกระจุกกระจิก ร้านขายเสื้อผ้าหรือ ร้านขายผลงานศิลปะและแกลอรี่ เป็นต้น

**สิ่งทีต้องระวังในการเปิดร้านกาแฟแบบผสมผสาน

1.สินค้าต้องกลมกลืนกัน
2.พื้นที่ของร้านกาแฟต้องค่อนข้างใหญ่
3.ถ้ากิจการแตกต่างกันมาก บุคากรก็ต้องต่างกันด้วย


ที่มาหนังสือ คู่มือการเปิดร้านกาแหฉบับสมบรูณ์