2554-04-19

การชงกาแฟ

การชงกาแฟแบบต่างๆขั้นพื้นฐานที่เราต้องรู้ การชงกาแฟต่างๆ สามารถประยุกต์การใส่วัตถุดิบ เช่น นมสด นมข้นหวาน หรือน้ำตาล ให้มีอัตราส่วนใกล้เคียงกับการชงกาแฟ โบราณ ก็ได้

วิธีการชงกาแฟแบบพื้นฐานต่างๆ

เอสเพรสโซ
เอสเพรสโซ เป็นกาแฟสดแท้ๆ เข้มข้น ที่ชงแบบไม่ผสมอะไรเลยนิยมดื่มเป็นอาหารมื้อเช้า คุณลักษณะพิเศษคือ จะต้องมีฟองสีทองลอยอยู่ด้านบนกาแฟเอสเปรสโซ ซึ่งเกิดจากความสมดุลของความสดของกาแฟ การ บดที่ได้ขนาด น้ำที่ได้อุณหภูมิและแรงดันที่ถูกต้องของน้ำที่ไหลผ่านขณะชง ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟประเภทนี้ ก็เพราะต้องการรสชาติ ของกาแฟแท้ๆ บางท่านอาจจะคิดว่าเอสเพรสโซ กับกาแฟดำนั้นเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้วต่างกัน

ข้อแตกต่างระหว่างเอสเพรสโซ กับกาแฟดำ
1.ถ้วยเสิร์ฟ เอสเปรสโซจะเสิรฟในถ้วยที่มีขนาดไมเกิน 2 ออนซ์ หรือถ้าใช้ถ้วยใหญ่กว่า 3 ออนซ์ จะมีปริมาณกาแฟเพียง 1-1.5 ออนซ์เท่านั้น หรืออยู่ที่ก้นถ้วย ส่วนกาแฟดำจะเสิร์ฟด้วยถ้วยที่มีขนาด 4-6 ออนซ์ และมีปริมาณกาแฟมากกว่าเอสเปรสโซ 2-3 เท่า

2. ปกติแล้วเอสเปรสโซจะเสิรฟโดยไม่มีน้ำตาลหรือนมหรือครีม ส่วนกาแฟดำจะเสิร์ฟคู่กับน้ำตาลหรือนมหรือครีม เอสเปรสโซท่ขงถูกวิธีจะมีฟองสีทองลอยอยู่ด้านบน และฟองนี้จะตีดเป็นคราบอยู่ที่ด้วยแม้จะดื่มกาแฟหมดด้วยแล้ว ส่วน กาแฟดำจะไม่มีฟองสีทองลอยอยู่ข้างบน หรือถ้ามีเมื่อใช้ช้อนคนฟองสีทองบาง ๆ ก็จะหายไป

3. รสชาติของเอสเปรสโซจะตีดปากอีกประมาณ 15-30 นาทีหลังจากดื่ม ส่วนกาแฟดำรสชาติจะติดปากไม่เกิน 5 นาที หรือ อาจจะไม่มีเลย
4. การดื่มเอสเปรสโซที่ถูกวิธีไม่นิยมใช้ข้อนคน ยกเว้นในกรณีที่เติมน้ำตาลลงไป และต้องดื่มให้หมดด้วยในอึกเดียวหรือ 2 อึก จะไม่มีการวางทิ้งไว้หรือค่อย เจ็บเหมือนกาแฟดำ

วิธีดื่มเอสเพรสโซแบบถูกวิธี
ยกถ้วยขึ้นมาดม จากนั้นซดกาแฟในถ้วยเล็กน้อย เเล้วอมไว้ในปากสักครู่ จากนั้นจึง
กลืน การซดที่ถูกวิธีจะต้องมีเสียงซดด้วย ไม่ต้องกลัวเสียมารยาทแต่หากท่านไม่กล้า ก็ไม่เป็นไร
ซดกาแฟส่วนที่เหลือ อมไว้ในปากสักครู่แล้วกลืน

วิธีการชงเอสเปรสโซร้อน
ใช้เมล็ดกาแฟ1 ช้อน ประมาณ8 กรัม บดกาแฟให้ละเอียดพอดี
ตักกาแฟใส่ลงในพอร์ต้าฟิลเตอร์ กดกาแฟด้วยแทมเปอร์ให้แน่น พอสมควร
นำกาแฟที่ได้แล้วใส่ไปในเครื่องชงกาแฟให้เข้าล็อค
นำถ้วยกาแฟขนาด 3.5 ออนซ์ ที่เตรียมไว้รองใต้พอร์ต้าฟิลเตอร์

กดปุ่มน้ำ เมื่อได้ปริมาณนำกาแฟประมาณ 45 ม.ล. (1.5 ออนซ์) ให้กดปุ่มเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อหยุดน้ำ หากสีของน้ำกาแฟที่ ไหลออกมาเปลี่ยนสีจากสีเข้มเป็นสีจาง เนื่องจากปริมาณน้ำออกมามากกว่า 45 ม.ล. ให้ยกถ้วยที่รองกาแฟออกทันที เพราะน้ำ กาแฟที่เจือจางตอนสุดท้ายจะทำลายรสซาติของกาแฟที่อยู่ในถ้วย
เสิร์ฟให้ลูกค้าพร้อมน้ำตาลและครีมอย่างละ1ซอง

วิธีการชงเอสเปรสโซเย็น
ชงกาแฟเอสเปรสโซ 1 ช็อตโดยให้ใช้กาแฟบดประมาณ 1 5 กรัม ให้ได้น้ำกาแฟประมาณ 100 ml ใส่ในแก้ว ขนาด 16 ออนซ์
เติมนมข้นหวานประมาณ 50 ml คนให้เข้ากันเติมน้ำแข็งจนเต็มแก้ว
เสิร์ฟพร้อมกับหลอด

*Americano
อเมริกาโน่ก็ คือ กาแฟเอสเปรสโซ 1 ซ็อต แต่เติมน้ำมากขึ้นเกือบเท่าตัว (2.5-3 ออนซ์) บางทีเรียกว่าเอสเปรสโซลันโก

วิธีการชงอเมริกาโน่ร้อน
กดปุมน้ำร้อนใส่ในถ้วยขนาด 8 ออนซ์ เมื่อได้ปริมาณน้ำ 100 ml
ให้กดปุมเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อหยุดน้ำใช้กาแฟทีาเอสเปรสโซ 1 ช็อต
(1 shot = 45 ml ) ใส่ในถ้วยที่บรรจุน้ำร้อนไว้แล้วเสิร์ฟให้ลูกค้าพร้อมน้ำตาลและครีมอยางละ 1 ซอง

วิธีการชงอเมริกาโน่เย็น
ชงกาแฟเอสเปรสโซ 1 ช็อตโดยใช้กาแฟบดประมาณ 15 กรัม
ให้ได้น้ำกาแฟประมาณ 100 ml ใส่ในแก้วขนาด 16 ออนซ์ ใส่น้ำตาล
ทรายขาวประมาณ 20-30 กรัม คนจนละลายเข้ากับกาแฟเติมน้ำแข็งจนเต็มแก้ว
เสิร์ฟให้ลูกค้าพร้อมหลอด

*Cappuccino
คาปูชิใน่เป็นกาแฟใส่นม นิยมดื่มพร้อมอาหารเช้า เสน่ห์ของคาปูชิโน่คือต้องมีฟองนม
เป็นส่วนผสม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคาปูชิโน่ คาปูชิโน่ต้องเป็นสีน้ำตาลแก่ โดยมีฟองนมลอยอยู่บนผิวกาแฟ วิธีการดื่มต้องไม่ คนฟองนมให้เข้ากับกาแฟ เพราะเราไม่ได้ดื่มกาแฟใส่นม เราต้องดื่มกาแฟพร้อมกับฟองนม ซึ่งเมื่อกาแฟหมดด้วยแล้ว ฟองนมยัง คงคิดอยู่ที่ถ้วยกาแฟ เทคนิคในการชงคาปูชิโนก็สำคัญ ต้องชงให้ฟองอากาศน้อยที่สุด เพื่อที่ฟองนมจไต้ไม่ละลายหายไปพร้อมกับกาแฟ

ฟองนมคาืปูชิโนจะต้องมีความละเอียดมาก ถ้าฟองนมเต็มไปด้วยฟองอากาศแสดงวาการตีฟองนมยังไม่ถูกวิธี ดังนั้นเมื่อตีฟองนมแล้ว ควรช้อนฟองนม หยาบที่อยู่ด้านบนนั้นทิ้ง และพยายามคลุกเคล้านมให้ละเอียดมากขึ้น ซึ่งจะเรียกว่า การทำให้ฟองเปียก นมที่เหลือจากการทำฟองนมจะเอามาทำใหม่ไม่ได้ เพราะจะตีสองไม่ขึ้นควรหาเครื่องตีฟองนมมาหนึ่งเครื่อง เป็นเครื่องเล็กๆใช้ถ่าน
หรือจะใช้แบบกระป็องกดทำฟองนมก็ได้

ควรมีด้วยแก้วทรงสูงประมาณ 4-6 นิ้ว สำหรับใส่นมที่จะทำฟองนม โดยดูว่าเมื่อใส่นมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1/3 เเก้ว ควรมีถ้วยเซรามิคที่เข้าไมโครเวฟได้สัก 1 ใบ เทนมลงไปในปริมาณ 200-250 ซีซี และให้ทำเครื่องหมายไว้ จากนั้นนำไป เข้าไมโครเวฟประมาณ 10-20 วินาที คอยเช็คอุณหภูมิไม่ให้เกิน 60 องศาเซลเซียส แล้วนำนมทีอุ่นเทใส่แก้วทรงส่งที่เตรียมไว้ เอา เครื่องทำฟองนมจุ่มลงไปแล้วกดสวิตซ์ ประมาณ 10 วินาที ก็จะได้ฟองนมที่ละเอียด

วิธีการชงคาปูชิโน่ร้อน
เตรียมตีฟองนมประมาณ150 ml ใช้กาแฟทำเอสเปรสโซ 1 ช๊อต(45 ml ) ใส่ในถ้วยขนาด 8 ออนซ์
ตักฟองนมใส่บนกาแฟจนเกือบถึงปากถ้วย เทนมประมาณ 30ml ลงไปตรงกลาง แล้วปิดทับด้วยฟองนม

วิธีการชงคาปูชิโน่เย็น
ตีฟองนมปริมาณ 150 ml. จากนั้นชงกาแฟเอสเพรสโซ 1 ช็อต โดยใช้กาแฟบด 15 กรัม ให้ได้น้ำกาแฟ 100 ml ใส่ในแก้วขนาด 16 ออนซ์ ใส่นมข้นหวาน 50 ml.คนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็งเต้มแก้ว ตักฟองนมใส่ด้านบน จนเต็มแก้ว โรยชินนามอนหรือผงช็อกโกแลตลงบนฟองนมเพียงเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อม หลอด


**Latteลาเต้เป็นกาแฟทีทำฟองนม คล้ายกับคาปูชิโน่ แต่ต่างกันตรงที่ ลาเต้ต้องเทนมลงไปก่อน แล้วจึงตักฟองนมปิดหน้าเล็กน้อย ลวดลายบนฟองนมละเอียดบนเครื่องดื่มลาเต้นั้น เขาเรียกกันว่า ลาเต้ อาร์ท

วิธีการชงลาเต้ร้อน

เตรียมตีฟองนมประมาณ 150 ml ใช้กาแฟทำเอสเปรสโซ 1 ช้อท ใส่ในถ้วย ขนาด 8 ออนซ์
เทนมใส่ 100 ml ลงไปไปในถ้วยตักฟองนมปิดนน้าเล็กน้อย เสิร์ฟให้ลูกค้าพร้อมน้ำตาล 1 ซอง



วิธีการชงลาเต้เย็น
ชงกาแฟเอสเปรสโซ 1 ช็อต โดยใช้กาแฟบดประมาณ 15 กรัม ให้ได้น้ำกาแฟประมาณ 100 ml ใส่ในแก้วขนาด 16 ออนซ์

ใส่น้ำตาลทรายขาว 30 กรัมคนให้เข้ากันเติมน้ำแขังจนเต็มแก้วเทนมสด 50 ml ลงไปในแก้ว ไม่ต้องคน
เสิรฟให้ลูกค้าพร้อมหลอด

*Mochaมอคค่าคือ กาแฟที่ เพิึมึิส่วนผสมของชอคโกแลตลงไปใน
กาแฟร้อนใส่นม

วิธีการชงมอคค่าร้อน
ใช้กาแฟทำเอสเปรสโซร้อน (45 ml ) ใส่ในถ้วยขนาด 8 ออนซ์
ตักผงโกโก้ ใส่ลงไปปริมาณ 1 ช้อน (12 กรัม) คนให้ละลาย
เทนมสด 100 ml ลงไปในถ้วย คนให้เข้ากันบีบวิปปิ้งครีมลงด้าน
บน โรยหน้าด้วยช็อคโกแลตไซรัปประมาณ 5 กรัม

วิธีการชงมอคค่าเย็น
ชงกาแฟเอสเปรสโซ ฯ ช้อท โดยใช้กาแฟบดประมาณ 15 กรัม ให้ได้น้ำกาแ*ประมาณ 100 ml ใส่ในแก้วขนาด 16 ออนซ์
ใส่นมข้นหวาน 30 ml ใฟนมข้นหวาน 30 ml ใส่ผงช็อคโกแลต 1 ช้อน(12 กรัม) คนให้ละลายเข้ากันกับกาแฟเติมน้ำแข็งจนเต็มแก้วประมาณ 300 กรัม
แล้วเทส่วนผสมลงไปบีบวิปปิ้งครีมลงด้านบนประมาณ 40 กรัม แล้วโรยหน้าด้วยชอคโกแลตไซรัปประมาณ 5 กรัม เสิร์ฟใน้ลูกค้าพร้อมหลอด

ที่มา อ้างอิงจาก หนังสือ กาแฟ 3 สไตล์ อ.เชษฐา-สุจินดา ใจใส